คนโบราณบอกไว้ว่า ต้นมะตูมปลูกไว้ที่สถานที่ใดก็เป็นมงคล มีชื่อเสียงดังไปทั่ว และยังมีการบอกต่อๆ กันมาอีกว่า มะตูมคือยาดี จึงได้ชื่อ “มะตูม” เป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรือง โดยถือเอาเสียง “ตูม” นั้นเป็นเสียงโยงเข้ากับความรุ่งเรืองเหมือนพลุ ดอกไม้ไฟ และเสียงปืนใหญ่ที่ดังตูม เพื่อประกาศความเกรียงไกรนั่นเอง
ที่มา :
https://www.technologychaoban.com/folkways/article_7612
ชื่อวิทยาศาสตร์ Aegle marmelos (L.) Corr.
ชื่อพ้องทางวิทยาศาสตร์ Belou marmelos (L.) Kuntze, Crateva
marmelos L.Lyons, Bilacus marmelos (L.), Feronia pellucida Roth
มะตูม เป็นพืชตระกูล ส้ม มะนาว จัดเป็นต้นไม้ขนาดกลาง ที่เป็นไม้ผลยืนต้น และสามารถเติบโตในแถบพื้นเมืองของบริเวณป่าดิบชื่นและบริเวณเนินเขาสูง ถูกค้นพบมากที่สุดคือประเทศอินเดียตอนกลางและตอนใต้ และยังค้นพบในอีกหลายประเทศ นอกจากนี้ยังมีการนำเข้ามาเพาะปลูกในประเทศไทยอย่างแพร่หลายไปทั่วทุกภาค และยังเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดของจังหวัดชัยนาท ประเทศไทยถือว่ามะตูมเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกกันในบริเวณบ้านเพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วย
ประโยชน์และสรรพคุณมะตูม
- ช่วยขับลม ลดอาการจุกเสียดแน่นท้อง ใช้เป็นยาระบาย และยังสามารถขับพยาธิได้
- ช่วยลดไข้ แก้หวัด แก้ไอ ขับเสมหะ
- ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
- ช่วยทำให้เจริญอาหาร
- ช่วยแก้พิษและแก้ปวดฝี
- ช่วยป้องกันโรคกระเพาะอาหาร เบาหวาน มะเร็ง รักษาอัลไซเมอร์และไข้มาลาเลีย
- ช่วยบำรุงสมอง ระบบลำไส้
- ช่วยบำรุงผิว ร่างกาย หัวใจ และรักษาน้ำดี
- ช่วยสมานแผลให้แผลแห้งเร็วขึ้น
- ช่วยในการลดอาการตกเลือดสำหรับสตรีหลังคลอดบุตรได้
- ช่วยแก้อักเสบ ช่วยลดอาการบวม แก้ผดผื่นคัน
- ช่วยแก้ท้องเดิน ท้องอืด และท้องเสีย
- ช่วยแก้ปัสสาวะเป็นเลือด และยังช่วยขับนิ่วในกระเพราะปัสสาวะ
บริโภคมะตูมอย่างไรให้ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ
- ไม่ควรรับประทานมะตูมมากเกินไป เนื่องจากอาจทำให้มีอาการท้องไส้ปั่นป่วนและท้องผูกได้
- หยุดบริโภคมะตูมก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากอาจส่งผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในช่วงระหว่างและหลังการผ่าตัด
- ผู้ป่วยเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้มะตูมเป็นยาร่วมกับยารักษาเบาหวาน เนื่องจากอาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำเกินไปได้
- สตรีมีครรภ์และผู้ที่ให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อนนำมะตูมมาใช้รักษาอาการป่วย เนื่องจากยังไม่ปรากฏข้อมูลทางการแพทย์เพียงพอต่อการรับรองความปลอดภัยสำหรับสตรีมีครรภ์และผู้ที่ให้นมบุตร
แชร์บทความนี้